Startup: คิดแล้วทำเลย!
แนวคิด “คิดแล้วทำเลย” เป็นเรื่องที่ได้รับการพิสูตรด้วยตัวผมเองแล้ว และเป็นแนวคิดที่ผมมักจะแนะนำหลายๆคนที่อยากจะตั้งอะไรเป็นของตัวเอง แนวคิดนี้มีอีกชื่อที่ผมและหุ้นส่วนเรียกคือ แนวคิด “ลุยทุ่ง” หลายๆคนมีไอเดียดีๆ แต่มั่วแต่คิด คิดนู้นคิดนี่ จะออกจากงานประจำดีไหม ทำแบบนี้แบบนั้นจะดีไหม ต้องไปศึกษาตลาดก่อนศึกษาคู่แข่งก่อน รอให้นู้นนี่นั้นพร้อมแล้วค่อยทำ และอีกล้านแปดเหตุผล บังเอิญว่าเมื่อคืนผมมีโอกาสกลับไปค้นชั้นหนังสือ แล้วไปพบหนังสือเล่มนี้ที่ผมอ่านจบไปนานแล้วตั้งแต่เริ่มตั้งบริษัทใหม่ๆ ตอนที่อ่านตอนนั้นยอมรับว่าเป็นหนังสือเรื่องแรกที่ผมอ่านแล้ววางไม่ลงจริงๆ คงเป็นเพราะเรื่องราวและวิธีการเรียบเรียงทำให้เหมือนผมหลุดไปอยู่ในเหตุการณ์ต่างๆของค่ายเพลง Bakery จริงๆ เมื่อคืนเลยเปิดๆพลิกๆอ่านผ่านๆไป จนมาสะดุดหน้านี้
แล้วเลยอุทานในใจว่า เฮ้ย นี่มันแนวคิด “ลุ่ยทุ่ง” ของเราเลยนิ คุณสุกี้บอกว่าช่วงปี 2538 พวกเค้าไม่ได้มีแพลนอะไรเลย “เราแค่คิดแล้วทำ คิดอะไรออกก็ทำ” ไม่ต้องศึกษาอะไรให้วุ่นวาย ใช้สัญชาตญาณล้วนๆ ช่วงนั้น Bakery Music รุ่งเรื่องมาก ด้วยฝีมือของคุณสุกี้ คุณสมเกียรติ์ และคุณบอย สำหรับ Startup คนไหนอยากหาแรงบรรดาลใจ แนะนำให้หาเล่มนี้มาอ่าน ร้านหนังสือใหญ่ๆอาจจะพอมี หรือเอาให้ชัวร์ลองติดต่อสอบถามไปที่สำนักพิมพ์ a book ก็ได้
ตอนผมเริ่มทำบริษัทบอกตรงๆไม่รู้เลยคู่แข่งในตลาดมีใครบ้าง จุดแข็งของเราคืออะไร จะเข้าหาลูกค้าอย่างไร ฯลฯ เราคิดแต่ว่า คิดได้แล้วทำเลย ลุ่ยทุ่งเอา รวบรวมเงินทุนหนึ่งก้อนมาจากหุ้นส่วน แล้วก็จดบริษัท ทำ portfolio แล้ววิ่งหาลูกค้าเลย ลุ่ยทุ่งไปเรื่อยๆแล้วก็เติบโตมาเรื่อยๆ เคยคิดว่า ถ้าตอนนั้นเราไม่ลงมือทำเลย ตอนนี้เราอาจจะเสียใจก็ได้ว่าทำไมตอนนั้นมัวแต่คิดไม่ทำสักที เมื่อคืนนี้กลับไปเจอหนังสือเล่มนี้แล้วดีใจว่า คงมีหลายๆท่านที่ใช้แนวคิดเคียวกับเราและประสบความสำเร็จได้
คิดแล้ว ทำเลยครับ