การโต้วาทีระหว่างผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
อีกหนึ่งเรื่องที่เป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากอเมริกาเป็นประเทศมหาอำนาจ และมีอิทธิพลมากที่สุด ดังนั้นทุกๆการเปลี่ยนแปลงของประเทศสหรัฐอเมริกาย่อมส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะการเลือกตั้งในครั้งนี้ สิ่งที่จุดประเด็นความสนใจมากที่สุดก็คือ ผู้นำของทั้ง2พรรค (Hillary Clinton จาก พรรค Democrat และ Donald Trump จากพรรค Republican) มีนโยบายการบริหารประเทศที่ต่างกันสุดขั้วถึง 4 ประเด็นด้วยกัน และไม่ว่าใครจะขึ้นมาบริหารประเทศ ก็ล้วนแต่มีผู้ได้เปรียบเสียเปรียบ ดังนั้นประชาชนทั้งในและนอกประเทศจึงให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในครั้งนี้

สำหรับใครที่ไม่ได้ติดตาม สามารถอ่านสรุปการ debate 4 หัวข้อได้ตามนี้ค่ะ
- เรื่องพลเมืองในประเทศ: Hillary สนับสนุนผู้อพยพถิ่นฐานในประเทศ ให้มีโอกาสเปลี่ยนสถานะเป็น American resident อย่างถูกกฎหมาย และให้โอกาสในการทำงาน แต่ทางด้าน Trump มีนโยบายที่ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง โดยแย้งว่า ต้องการที่สร้างกำแพงกั้นเขตแดนทางตอนใต้ของสหรัฐฯและเนรเทศผู้อพยพอย่างผิดกฎหมายออกนอกประเทศ + ยกเลิกสิทธิให้สัญชาติอเมริกันแก่เด็กต่างชาติที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ
- เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ Hillary สนับสนุนให้สหรัฐอเมริกา ให้ร่วมมือและสนับสนุนข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านเพื่อต่อสู้กับกลุ่ม ISIS ส่วน Trump มองว่าไม่ว่ายังไงความสำคัญของประเทศและผลประโยชน์ของอเมริกาต้องมาที่หนึ่ง ซึ่งนั่นหมายถึง Trump มุ่งเน้นเรื่องภายในประเทศมากกว่าต่างประเทศ
- เรื่องอาวุธ Hillary ไม่สนับสนุนให้มีการใช้อาวุธปืน ไม่ว่าจะถูกหรือผิดกฎหมาย ส่วน Trump ก็โต้แย้งอย่างชัดเจนที่จะสนับสนุนให้ชาวอเมริกันครอบครองปืนได้อย่างถูกกฎหมาย
- เรื่องภาษีเงินได้ Hillary มีนโยบายให้คนรวยจ่ายภาษีมากกว่าคนทั่วไป เพื่อที่จะนำเอาเงินจำนวนนี้ไปช่วยเหลือกลุ่มชนชั้นกลาง แต่ Trump มองว่าให้ลดภาษีคนรวยดีกว่า เพราะกันผู้ประกอบการชาวอเมริกันย้ายฐานออกไปนอกประเทศ
นอกจากจะมีดราม่าเรื่องนโยบายของแต่ละพรรคแล้ว ด้วยความที่ Hillary อยู่ในวงการการเมืองมาก่อน การแสดงออกทางอารมณ์ก็คงจะได้เปรียบกว่า Trump หลายคนมองว่า Trump มีความกระโชกโฮกฮากพอสมควร ไม่เหมาะที่จะมาบริหารประเทศ แต่ด้วยความแตกต่างที่ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกหรือนโยบายที่สุดโต่งนี้ Trump สามารถดึงคนส่วนหนึ่งให้เชื่อมั่นในตัวเขาและโหวตเขาได้
ถ้าเปรียบกับการทำ Marketing สำหรับ Product สักตัวนึง การที่เราเล่นกับความดราม่า หรือความแตกต่างแบบสุดขั้วของสินค้า ก็คงจะได้รับความสนใจในโลกออนไลน์ไม่น้อย ต้องยอมที่จะสร้างจุดเด่นที่แต่กต่างแบบสุดโต่ง เหมือนกับการขัดกันอย่างสุดขั้วของนโยบายจากผู้นำทั้ง2พรรคนี้ ที่เรียกร้องความสนใจได้จากทั่วทุกมุมโลก…