Consultancy

อิทธิพลของ Presenter K-POP ที่ส่งผลต่อยอดขายของ Brand และกระแสตอบรับใน Social

October 9, 2018

author:

อิทธิพลของ Presenter K-POP ที่ส่งผลต่อยอดขายของ Brand และกระแสตอบรับใน Social

หลาย ๆ คนคงทราบกันดีว่า ในหลายปีที่ผ่านมานี้ศิลปินเกาหลี เข้ามามีอิทธิพลค่อนข้างมากในไทย ซึ่งจะเห็นได้จากงาน Presenter ต่าง ๆ ที่เลือกใช้ศิลปินเกาหลีรวมถึงงานต่าง ๆ ที่มีศิลปินเกาหลีเข้ามาเกี่ยวข้อง แน่นอนว่าสิ่งที่ผู้จัดงานได้รับอย่างแน่นอนคือกระแสตอบรับ ซึ่งจะเป็นในด้าน Positive หรือ Negative นั้นก็ขึ้นอยู่กับกติกาและรูปแบบงานว่าจะทำออกมาได้ดีแค่ไหน

 

ทำไมต้องเป็นศิลปินเกาหลี ?

  1.  พลังแฟนคลับ  :  อย่างที่รู้ว่าเหล่าแฟนคลับของศิลปินเกาหลีมีการใช้สื่อ Social โดยเฉพาะ Twitter ค่อนข้างมาก และทำให้เกิดปรากฏการณ์ติด Trend และเกิดกระแสได้อย่างรวดเร็ว
  2.  เป็นที่รู้จักในหลายประเทศ  :  ศิลปินเกาหลีเดบิวต์มาไม่ได้เพื่อทำงานในประเทศเกาหลีเพียงอย่างเดียว แต่มีการออกไปโปรโมทในหลายประเทศทั้งฝั่งเอเชียและยุโรป ทำให้เมื่อ Brand ที่ได้ศิลปินเกาหลีมาร่วมงานแน่นอนว่าแม้สินค้านั้น ๆ จะไม่ได้มีวางขายในบางประเทศแต่ก็จะมีคนจดจำผ่านภาพลักษณ์ของการเป็น Presenter ของศิลปินกลุ่มนั้น
  3.  พร้อมจ่าย และ พร้อมสนับสนุน : แฟนคลับศิลปินเกาหลีหลายคนพร้อมที่จะจ่ายเงิน เพื่อสนับสนุนศิลปินที่เค้ารัก เพราะการซื้อสินค้าที่ศิลปินเป็น Presenter จะทำให้ Brand ต่าง ๆ เห็นถึงศักยภาพที่มากพอและเป็นการเปิดโอกาสให้อีกหลาย ๆ Brand อยากร่วมงานกับศิลปิน

 

แค่เป็นศิลปินเกาหลีก็ขายได้ จริงหรอ?

แฟนคลับเกาหลีหลาย ๆ คนค่อนข้างมี loyalty ต่อตัวศิลปินค่อนข้างมาก เห็นได้จากในปัจจุบันที่ยอดขายอัลบั้มในหลายประเทศลดลง เนื่องจากคนนิยมฟังเพลงจากช่องทาง Media อื่น ๆ แต่สำหรับศิลปินเกาหลียอดขายอัลบั้มยังถือเป็นปรากฏการณ์และหลาย ๆ วงก็ยังคงสร้างสถิติใหม่ ๆ ขึ้นทุกปี ไม่เพียงแต่อัลบั้มเพลงเท่านั้นที่ขายได้ แต่สินค้าต่าง ๆ ที่มี Story ของศิลปินเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็สามารถสร้างยอดขายให้กับตัวค่ายเพลงเอง หรือ Brand ต่าง ๆ  ยกตัวอย่างเช่นสัตว์เลี้ยงของศิลปินที่มีการนำคาแรคเตอร์เหล่านั้นมาสร้างสรรค์เป็นตัวการ์ตูนสุดน่ารัก หรือเพียงแค่นำโลโก้ของศิลปินไปใส่ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ก็มีแฟนคลับที่สนับสนุนและซื้อมาเก็บไว้ครอบครอง

 

และในปีนี้หลาย ๆ Brand ในไทยก็มีการจัดกิจกรรมโดยการใช้ศิลปินเกาหลีเข้ามาทำกิจกรรมในไทย โดยเราขอเลือกมา 3  Brand ที่มีการจัดกิจกรรมโดยมีรูปแบบงานใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะเป็น CP Brand / Moonshot / NATURE REPUBLIC  โดยทั้ง 3 Brand นี้ได้ ​Presenter ชื่อดังมาร่วมงาน และเกิดกระแสใน Social โดยเฉพาะในโลก Twitter ทั้งแง่บวกและลบ ตลอดช่วงเวลาการจัดงาน…

                    

 

เริ่มกันที่ CP BRAND ที่ได้แบมแบม มาร่วมงานโดยก่อนหน้านี้ยังไม่มีการเปิดเผยเรื่อง Presenter ออกมาจนถึงวันที่แบมแบมเดินทางมาถึงประเทศไทย โดยทาง CP ได้มีการส่งbodyguardไปรับ เพียงเท่านี้ก็ทำให้เกิดกระแสเป็นที่พูดถึงในโลก Social เป็นวงกว้างและเมื่อแบมแบมออกมาทวิตโดยใช้แฮชแทค #ไส้กรอกซีพีเพื่อนซี้แบมแบม เท่านั้นแฮชแทคนี้ก็ติด Trend Twitter ทันทีโดยแทบไม่ต้องมีการเปิดตัว Presenter อย่างเป็นทางการ

    

(credit : @Aileen3D)

หลังจากมีการเปิดเผยพรีเซนเตอร์คนใหม่ของ CP อย่างแบมแบม ไม่นานก็มีการเปิดตัวงาน  “CP Sausage Forever” ซึ่งเป็นงาน Exclusive Fan Meeting ที่มีกติกาคือต้องซื้อสินค้า “ซีพี พอร์คแฟรค์” ลุ้นเป็น Top Spender ก็มีแฟนคลับที่พร้อมใจกันซื้อสินค้าจนบางเซเว่นถึงกับของขาดเลยทีเดียว

นอกจากแฟนคลับแบมแบมที่สนับสนุนและซื้อสินค้ากันอย่างมากมายแล้ว อีกสิ่งที่เป็นส่วนสำคัญก็คือตัวแบมแบม ที่ถือว่ามีความแข็งแรงในเรื่องของ Social Influencer อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าศิลปินเกาหลี ไม่เพียงแต่เดบิวต์ในเกาหลีเท่านั้นแต่ยังออกไปโปรโมทในต่างประเทศ ทำให้แบมแบมมีผู้ติดตามในสื่อโซเชียลทั้ง IG และ Twitter หลายล้านคน และยิ่งแบมแบมใช้ช่องทางเหล่านี้ในการสื่อสารกับแฟนคลับพร้อมโปรโมทกิจกรรม ซึ่งถือเป็นการลดช่องว่างระหว่างความเป็นไอดอลเกาหลีกับแฟนคลับลงได้  ก็ยิ่งทำให้เกิด Impact ต่อแบรนด์มากขึ้น และทำให้งานแฟนมีตติ้งนี้ได้รับการตอบรับที่ดี เกิดเป็นภาพความประทับใจและเกิด Positive Comment ในสื่อโซเชียลค่อนข้างมาก

มาต่อกันที่ Brand Moonshot  ซึ่งมีสาว ๆ Blackpink เป็น Presenter โดย Moonshot เป็นแบรนด์เครื่องสำอางค์จากค่าย YG ซึ่งเป็นค่ายของสาว ๆ นั่นเอง สำหรับกิจกรรม Fansign Events ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยโดยมีเพียงลิซ่า สาวไทย 1 ในสมาชิกของวงมาร่วมงานนี้ และใช้ชื่อกิจกรรมว่า “Moonshot x LISA” 1st Fan Sign In Bangkok Exclusive @CentralWorld

กติกาของ Moonshot คือการซื้อของเพื่อเป็น 1 ใน Top Spender เช่นเดียวกับของ CP แต่สิ่งที่ทำให้งานนี้เป็นที่พูดถึงในวงกว้างก็คือการมีบุคคลที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย มาร่วมกิจกรรมแบบถูกต้องตามกติกาจนได้ใจแฟนคลับไปเต็ม ๆ ในครั้งนี้ นั่นก็คือ คุณโอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร ที่มียอด Top Spender สูงถึงหลักแสน ทำให้สื่อต่าง ๆ ทั้งในโลกโซเชียล ทีวี หนังสือพิมพ์ พูดถึงเรื่องนี้และทำให้แบรนด์ได้ PR งานนี้ไปในวงกว้างมากขึ้น 

(ยอด TopSpender จากเว็บ Moonshot)

 

และสุดท้ายที่เราจะพูดถึงก็คือ NATURE REPUBLIC แบรนด์สกินแคร์ของประเทศเกาหลีใต้ที่ได้ศิลปินชื่อดังอย่าง EXO มาเป็น Presenter ซึ่งถ้าใครติดต่ามข่าวจะรู้ว่าก่อนหน้านี้ในปี 2016 ได้เคยมีการจัดงาน fansign รูปแบบนี้ไปแล้วที่เซนทรัล ลาดพร้าว และเป็นที่พูดถึงกันอย่างมากจนออกข่าวในหลาย ๆ ช่องทางจนไปถึงมีการแจ้งเตือนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางบริเวณจัดงานกันเลยทีเดียว

มาในปี 2018 นี้ Exo กลับมาประเทศไทยอีกครั้งและยังคงได้กระแสการตอบรับที่ดีจากแฟนคลับ แต่สิ่งที่แบรนด์ได้จากงานนี้นอกจากยอดขายที่สูงขึ้น กลับเป็น Nagative Comment ที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ ที่เกิดจากการจัดงาน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของกติกาที่เปลี่ยนไปมา , สินค้า  และอื่น ๆ ทำให้เห็นว่าแม้ตัวแบรนด์จะมี Presenter ที่ดังและมีแฟนคลับมากแค่ไหน แต่หากการจัดการงานไม่ดีพอ ผลตอบรับที่ออกมาก็จะเป็นไปในแง่ลบมากกว่าแง่บวก และถึงแม้แฟนคลับจะมีคอนเม้นท์ในแง่ลบต่องาน แต่เพราะตัวศิลปินก็สามารถทำให้แฟนคลับพร้อมจ่ายเงินเพื่อมาเจอศิลปินที่รัก  แต่เชื่อว่ายอดขายนั้นจะไม่ยั่งยืนเลย หากแบรนด์ไม่สามารถทำให้แฟนคลับรักในตัวของแบรนด์ได้ เหมือนอย่างกรณี NATURE REPUBLIC นั่นเอง