31 เนื้อหาต้องห้ามในการลงโฆษณา Facebook
นักการตลาดและผู้ลงโฆษณาบางท่านอาจจะเคยประสบปัญหาสั่งซื้อ Facebook Ads แล้วและ ads เริ่มรันแล้วแต่สักพัก ads โดน disapproved บางคนลองอ่านข้อมูลที่ทาง Facebook ส่งมาแจ้งเหตุผลที่ ads โดน disapprove แล้วแต่อาจจะไม่เข้าใจทั้งหมดและยังสงสัยอยู่ว่าสรุปแล้วสินค้าและบริการ หรือเนื้อหาประเภทไหนที่ไม่สามารถลงโฆษณาบน Facebook ได้บ้าง บทความนี้จึงรวบรวม 31 เนื้อหาต้องห้ามในการลงโฆษณา Facebook สรุปแบบรวบรัดมาให้โดยรวบรวมจาก Ads Policies ของ Facebook เอง https://www.facebook.com/policies/ads/
- สินค้า บริการ หรือกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
- เนื้อหาที่เลือกปฏิบัติหรือสนับสนุนการเลือกปฏิบัติโดยอิงจากคุณลักษณะส่วนบุคคล เช่น เชื้อชาติ ชนชาติ สีผิว สัญชาติ ศาสนา อายุ เพศ รสนิยมทางเพศ อัตลักษณ์ทางเพศ สถานะสมรส ความพิการ ภาวะทางการแพทย์หรือทางพันธุกรรมต่างๆ
- สินค้าประเภทบุหรี่และยาสูบต่างๆ
- ยาและสินค้าที่เกี่ยวกับยา หรือเป็นการโปรโมทการใช้ยาเพื่อผ่อนคลาย ยาตามใบสั่งแพทย์ หรือยาที่ควบคุมโดยกฎหมายต่างๆ
- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ไม่ปลอดภัย หรือโปรโมทการขายหรือการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งการระบุว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวปลอดภัยหรือไม่นั้นล้วนเป็นดุลยพินิจของ Facebook เอง ดังนั้นข้อนี้ แม้เราอาจจะเป็นแบรนด์อาหารเสริมที่ปลอดภัยก็จริงแต่หาก Facebook มองว่าไม่ปลอดภัยก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงโฆษณาบน Facebook ได้
- อาวุธหรือวัตถุระเบิด หรือเป็นการโปรโมทการใช้อาวุธ ยุทธภัณฑ์ วัตถุระเบิด หรือเป็นโฆษณาอุปกรณ์ดัดแปลงอาวุธ
- สินค้าหรือบริการสำหรับผู้ใหญ่ ยกเว้นการโฆษณาการวางแผนครอบครัวและการคุมกำเนิด โดยหากเป็นโฆษณายาคุมกำเนิดต้องโฟกัสไปที่คุณสมบัติการคุมกำเนิดของผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่เรื่องความพึงพอใจทางเพศหรือการเสริมสมรรถภาพทางเพศ และต้องกำหนดเป้าหมายไปยังผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น
- เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ รวมถึงภาพโป๊เปลือย การแสดงให้เห็นภาพคนในท่าทางที่โจ่งแจ้งหรือส่อไปในทางเพศ หรือกิจกรรมที่ชี้นำหรือกระตุ้นเรื่องทางเพศจนเกินควร หรือเป็นโฆษณาที่สื่อถึงความสามารถในการเข้าถึงและดูเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ที่มีคนสร้างขึ้นมา
- โฆษณาที่ฝ่าฝืนหรือละเมิดสิทธิ์ของบุคคลที่สาม รวมไปถึงลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า ความเป็นส่วนตัว หรือสิทธิ์ส่วนบุคคลหรือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินอื่นใด
- เนื้อหาเร้าอารมณ์ที่ทำให้ตื่นตระหนก สะเทือนอารมณ์ ดูหมิ่น หรือมีการใช้ความรุนแรงมากจนเกินไป
- โฆษณาที่แสดงลักษณะส่วนบุคคลหรือบ่งบอกถึงลักษณะส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงการแสดงหรือบ่งบอกทั้งทางตรงและทางอ้อมถึงเชื้อชาติ ชาติพันธุ์ ศาสนา ความเชื่อ อายุ รสนิยมทางเพศหรือเพศวิถี อัตลักษณ์ทางเพศ ความพิการ สภาวะทางการแพทย์ (รวมถึงสุขภาพกายและสุขภาพจิต) สถานะทางการเงินสมาชิกภาพในสหภาพการค้า ประวัติอาชญากรรม หรือใช้ชื่อแบบเหมารวมชื่อใดชื่อหนึ่ง (ข้อนี้เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจน แนะนำให้ลองไปดูตัวอย่างต้องห้ามที่ link นี้ https://www.facebook.com/policies/ads/prohibited_content/personal_attributes)
- เนื้อหาที่ให้ข้อมูลผิด ๆ เช่นข่าวลวง (fake news) โดยที่ Facebook มี partner ในการตรวจสอบกรณีผู้ลงโฆษณาให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนและไม่ถูกต้อง
- เนื้อหาที่เป็นประเด็นถกเถียงทางการเมืองและสังคมเพื่อประโยชน์ทางการค้าต่างๆ
- โฆษณาที่นำผู้ใช้งานไปยัง landing page ที่ใช้งานไม่ได้ รวมถึงเนื้อหาของ landing page ที่ขัดขวางไม่ให้ผู้ใช้งานออกจากหน้านั้นได้
- อุปกรณ์สอดแนมต่าง ๆ หรืออุปกรณ์ติดตามโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์สอดแนมอื่น ๆ
- ถ้อยคำหยาบคายหรือมีไวยากรณ์และเครื่องหมายวรรคตอนที่ไม่ถูกต้อง หรือมีเจตนาหลีกเลี่ยงกระบวนการตรวจสอบโฆษณาของเราหรือระบบบังคับใช้อื่นๆ ตัวอย่างเช่น
“Get the best f*&%ing tshirts here.”
Whÿ wónt yòu clîck mé?
“♧ ♥ ♡ ♢ ♢ Buy Now ♔ ♕ ♚ ♛ ⚜” - ฟังก์ชั่นการทำงานที่ไม่สามารถใช้งานได้จริง เช่นภาพที่ลอกเลียนปุ่มเล่นวิดีโอ (กราฟฟิกเลียนแบบปุ่มเล่นวิดีโอโดยที่ไม่ได้เป็นวิดีโอจริง ๆ )
- Before & After เนื้อหาสุขภาพส่วนบุคคลที่มีภาพ “ก่อนและหลัง” หรือภาพที่มีผลลัพธ์ที่เกินจริงและไม่น่าเป็นไปได้ เนื้อหาโฆษณาที่ทำให้ผู้รับสารรู้สึกแย่กับรูปร่างหรือลักษณะของตัวเอง ตัวอย่างเช่นการโปรโมทรูปการลดน้ำหนัก หรือสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพอื่นๆ ซึ่งนี่น่าจะเป็นโฆษณาที่ Facebook disapprove มากที่สุดในเมืองไทย ส่วนใหญ่จะเป็นพวกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหรือลดน้ำหนัก หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่แสดงภาพ before & after
- เนื้อหาประเภทเงินกู้ด่วนต่าง ๆ หรือเช็คล่วงหน้า หลักประกันเพื่อประกันตัว หรือเงินกู้ระยะสั้นอื่น ๆ โดยประสงค์ให้นำเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายจนกว่าจะถึงวันจ่ายค่าจ้างถัดไปของผู้ที่จะใช้บริการ (การกู้เงินระยะสั้นหมายถึงการกู้เงินโดยมีระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน)
- ธุรกิจเครือข่ายที่โปรโมทโอกาสในการสร้างรายได้ หรือโปรโมทโมเดลธุรกิจที่นำเสนอการคืนทุนในเวลาสั้น ๆ จากการลงทุนเพียงเล็กน้อย หากต้องการโปรโมทธุรกิจดังกล่าวจำเป็นต้องอธิบายถึงสินค้าหรือโมเดลธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน
- เนื้อหาเชิญชวนคนมาประมูลแบบมีค่าธรรมเนียมสิทธิ์การประมูล (Penny Auction หรือ Bidding Fee Auction) หรือโมเดลธุรกิจอื่นที่คล้ายกันนี้
- โฆษณาโปรโมทบริการจัดทำหรือขายเอกสารเท็จ เช่น บัตรประจำตัวปลอม วุฒิการศึกษาปลอม หรือหนังสือเดินทางปลอม
- เนื้อหาที่มีคุณภาพต่ำหรือที่เป็นการรบกวน เช่นที่นำไปสู่ landing page ที่มอบประสบการณ์ที่ไม่ดีให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งรวมถึงการนำเสนอโฆษณาในลักษณะที่ชวนให้เข้าใจผิด เช่น หัวเรื่องที่สื่อความเกินจริงหรือกระตุ้นให้ผู้ใช้โต้ตอบกับโฆษณาโดยมิได้สมัครใจ และนำทางผู้ใช้ไปยัง landing page ที่มีเนื้อหาจริงเพียงเล็กน้อยแต่มีแต่เนื้อหาโฆษณาคุณภาพต่ำหรือไม่เกี่ยวข้องเป็นส่วนใหญ่
- Spyware หรือ Malware หรือ software อื่นๆ ที่ส่งผลให้เกิดประสบการณ์ที่ไม่คาดคิดหรือหลอกลวง ซึ่งรวมถึงลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่มีสินค้าเหล่านี้
- แอนิเมชั่นอัตโนมัติ ที่มีเสียงหรือภาพเคลื่อนไหวแบบแฟลชที่เล่นโดยอัตโนมัติโดยที่ผู้ใช้ไม่ได้กระทำการใดๆ หรือขยายโฆษณาภายใน Facebook หลังจากที่มีคนคลิกโฆษณานั้น (ข้อนี้เข้าใจว่า Facebook น่าจะระบุกันไว้กรณีมีคนสามารถ hack ระบบเพื่ออัพโหลด content ประเภทนี้ได้ เพราะด้วยระบบของ Facebook เองไม่ได้เอื้อให้อัพโหลด format ดังกล่าวอยู่แล้ว)
- เนื้อหาโปรโมทอุปกรณ์สำหรับการสตรีมที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือสินค้าและสิ่งของที่ช่วยและส่งเสริมการเข้าถึงสื่อดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาต เข้าใจว่าน่าจะรวมถึงพวกเว็บไซต์ดูหนังหรือกีฬาที่ไม่ได้รับอนุญาตด้วย
- การใช้ระบบต่างๆ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงกระบวนการตรวจสอบโฆษณาของ Facebook หรือระบบบังคับใช้อื่นๆ ซึ่งรวมถึงเทคนิคที่พยายามปลอมแปลงเนื้อหาหรือหน้าปลายทางของ landing page
- ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินต้องห้าม หรือโปรโมทสินค้าและบริการทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการโปรโมทที่ชวนให้เข้าใจผิดหรือหลอกลวงอยู่บ่อยครั้ง ที่เจอเยอะๆ ช่วงหลังๆ คือพวก cryptocurrency หรือสกุลเงินดิจิตอลต่างๆ ที่หลอกให้คนไปลงทุน
- การขายชิ้นส่วนของร่างกาย
- เนื้อหาที่โฆษณาสินค้าและบริการเกินจริง เช่น สินค้าเกี่ยวกับ สุขภาพต่างๆ หรือการว่าจ้างงาน
- โปรโมทธุรกิจที่หลอกลวง โดยตั้งใจหลอกเงินผู้สนใจลงทุนหรือนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้แสวงหาผลประโยชน์
ซึ่งเนื้อหาต้องห้ามนี้น่าจะมีเพิ่มขึ้นในอนาคตแน่นอนเมื่อมี trends หรือธุรกิจหลอกลวงอะไรใหม่ ๆ ที่จะมาใช้ Facebook สร้างความสับสนให้ผู้ใช้งาน โดนที่ความตั้งใจของ Facebook นั้นก็เพื่อที่จะสร้าง platform ที่ปลอดภัยและมีประโยชน์กับผู้ใช้งาน การป้องกันและปิดกั้นเนื้อหาต้องห้ามพวกนี้จึงจำเป็นมาก ๆ สำหรับ Facebook ที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ใช้งานและเก็บให้พวกเขาอยู่ใน platform ต่อไปนาน ๆ