4 กุญแจความสำเร็จในการทำการตลาด ที่เรียนรู้ได้จากดนตรี hiphop
สวัสดีครับ
คุณชอบฟังเพลงแนวไหน? Playlist ของคุณ มีเพลงแนวไหนบ้าง?
ผมว่าอย่างน้อยต้องมี แนว Hip – Hop ซักเพลงสองเพลง
Hip Hop นี่เป็น Genre ที่สนุกนะครับว่าไหม
ผมชอบ Hip-Hop ชอบเนื้อหา ชอบจังหวะ ชอบร้อง ชอบเต้น
ชอบใส่หูฟังเปิดเสียงดังๆ เวลาอยู่บนบีทีเอส ถึงแม้มันจะยากมากๆ ที่จะอดทนไม่แรพก็ตาม
ผมติดตามวงการ Hip-Hop มาเรื่อยๆ
ในช่วงหลัง 4-5 ปีมานี้เนี่ย ต้องบอกเลยว่า นี่มันเป็นช่วงขาขึ้นของ Hip – Hop เมืองไทย
มีเพลงใหม่ ออกมาแทบทุกอาทิตย์ ทั้งในตลาดแมส และวงการใต้ดิน
เพลง Hip – Hop ทั้งจากศิลปินไทย และศิลปินต่างประเทศ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้วงการ Hip – Hop พัฒนาไปเร็วมาก
ทำให้ผมก็อดสงสัยไม่ได้เลยว่า
“อะไรกันที่ทำให้ Hip – Hop มันรุ่งเรื่องขึ้นมาได้?”
และความสงสัยนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมไปลอง Research หาข้อมูล
ทำให้พบว่าจริงๆแล้วเนี่ย วงการ Hip-Hop เป็นวงการนึงที่มีแผนการที่เจ๋งไม่ธรรมดาเลย
ผมสรุปออกมาได้ 4 ข้อ ที่อยากจะมาแชร์ทุกคนได้รู้ เผื่อนำไปใช้กันได้
อาจจะยาวซักหน่อย แต่รับรองว่าอ่านเพลินแน่นอนครับ
ใครที่ขี้เกียจอ่าน หรือ ไม่มีเวลา ผมสรุปไว้ให้ด้านล่างนะครับ ลงไปอ่านได้เลย
มาครับ เริ่มกัน!
- What is Hip Hop? I’m HIP HOP!

“ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านายชอบ Hip Hop”
เพื่อนใหม่คนหนึ่งได้บอกผมหลังจากที่เราคุยกันได้ไม่ถึง 10 นาที
“รู้ได้ไง?” ผมถาม
“ก็การแต่งตัว วิธีพูด แบบความรู้สึกมันใช่” เธอตอบ
ต้องมีซักครั้งหนึ่งที่คุณเดินผ่านร้าน หรือบาร์
มีเสียงเบสและกลองจากดนตรี hip hop ดังออกมาจากในร้าน
มันทำให้คนอยากจะโยกหัว เดินเต้นตามจังหวะ
หรือบางครั้งที่มีเพลง Rap สมัยที่คุณและเพื่อนโตมาด้วยกัน ถูกเปิดขึ้นมา
แล้วทุกคนในโต๊ะก็แรพออกมาด้วยกัน
หรือบางทีที่คุณเดินผ่านกลุ่มวัยรุ่น ใส่เสื้อยืดเท่ๆ กางเกงทรงแปลกๆ รองเท้า Sneaker สร้อยคอ แหวน พร้อมด้วยทรงผมแปลกตา
แล้วคุณก็อดคิดไม่ได้ว่าพวกนี้เป็นเด็ก Hip Hop แน่ๆ
นี่คือเอกลักษณ์ของ Hip Hop ดนตรีที่มีตัวตนชัดเจน ทั้งภาพ เสียง ความรู้สึกนี่แหละคือ
Key Success อันแรกของ Hip-Hop
“การมี Brand Identity ที่ชัดเจน”
การที่เพียงมองผ่านก็จำได้ หรือการได้ยินเสียง Jingle เพียง 3 วินาที
ก็ทราบในทันทีว่าคือแบรนด์อะไร
Key Success ที่ทุกแบรนด์ต้องการสร้าง แต่มันไม่ได้มากันง่ายๆหรอกนะครับ
กว่าจะมี Brand Identity ที่ชัดเจนขนาดนี้ได้ ต้องเกิดมาจากการสร้าง
“Customer Experiences”
หรือสร้างประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์ให้ผู้บริโภค
อย่างครบทุกด้าน และต่อเนื่องสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาพ เสียง ความรู้สึก
ผ่านชิ้นงานโฆษณา campaign และตัวสินค้าเอง
เพื่อสุดท้ายแล้วแบรนด์จะซึมซับเข้าไป เป็นมากกว่าสินค้าแต่เป็น Lifestyle
- Hip Hop Keep it real!
“สุดปัง ปัง ปังปะรังปังปี้ สุดปัง ปัง ปังหยาอารี ”
ผมว่าเพียงได้อ่าน เสียงของน้อง Milli ก็คงดังขึ้นมาในหัวคุณ
ถ้าคุณติดตามเพลงฮิปฮอปไทย หรือเพลงไทยอยู่บ้าง
คงเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะไม่รู้จัก Milli หรือ มินนี่
Rapper สาววัย 17 ที่กำลังดังเป็นพลุแตกด้วย Single ล่าสุด “สุดปัง”
ที่ปัจจุบันวันที่ผมเช็คมียอดวิวถึง 31ล้านวิว (และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างฉุดไม่อยู่)
และ Single ก่อนหน้า “พักก่อน” ที่มียอดวิวถึง 76 ล้านวิว!
ความสำเร็จของ Milli นั้น ต้องบอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องฟลุ๊ค หรือหรือแค่กระแส
แต่เป็นการคิดและวางแผนมาอย่างดี! และหนึ่งในแผนนั้นคือ
“Personalised Contents” การสื่อสารเฉพาะกลุ่ม
Key Success ที่ 2 ของดนตรี Hip Hop
ครั้งแรกที่ผมได้ฟังเพลง Debut “พักก่อน” ผมรู้ทันทีเลยว่า Rapper คนนี้ไม่ธรรมดา
และไปได้อีกไกลแน่นอน ด้วยจังหวะที่ติดหู เนื้อเพลงที่จัดจ้าน
“พักก่อน แม่บอกให้เธอพักผ่อน ยังละอ่อนยังสาวลูกหลาวอย่าไปทักก่อน”
ภาษาที่ Milli เลือกใช้ในเพลงของเธอ มันไม่ได้เป็นภาษาไทยทั่วๆไป แต่มันคือ ภาษาลู!
ผมไม่ได้มีเจตนาจะ Sexual Harrasment หรือเหยียดเพศใดๆนะครับ
ถ้าคุณมีเพื่อนเป็น LGBTQ+ หรือแม้กระทั่งแก๊งสาวๆ
คุณจะรู้เลยว่าพวกเขามีภาษาเฉพาะกลุ่ม
เช่นการใช้แสลงสรรพนาม เช่นการแทนตัวเองว่า แม่ หรือเพื่อนๆน้องๆ ว่าลูกสาว
หรือการนำ Insights ของสาวๆ เพศทางเลือกที่พวกเขาเจอกันจริงๆมาเล่นอย่าง
“พูดเหมือนหล่อนเมายาคุม น้องควรกลับไปนอนนอนนะ”
และไม่ไช่แค่เพลงของ Milli แต่เพลง Hip Hop เกือบทั้งหมดก็เป็นเหมือนกัน
เนื้อเพลงที่พูดกับผู้ฟัง หรือพูดแทนผู้ฟัง หรือการนำกิจกรรม เหตุการณ์ ความรู้สึก
ที่เป็น Insights จริงๆมาเล่า อย่างตรงไปตรงมา ไม่กลัว หรือเคอะเขิน
สิ่งเหล่านี้แหละครับ คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ Hip Hop เข้าไปอยู่ในใจของผู้คน
Hip Hop Keep it real! เป็นตัวอย่างที่ดีในการสื่อสารกับผู้บริโภค
ที่ทุกแบรนด์ควรนำไปทำตาม
โดยเริ่มจากการเข้าใจกลุ่มลูกค้าของตนเองจริงๆ
เข้าใจในรสนิยม วิธีการพูด สื่อสาร ภาษาเฉพาะกลุ่ม
จากนั้นสื่อสารกับพวกเขาเหมือนคุณเป็นหนึ่งในพวกเขา ใช้ภาษาเดียวกัน
เลือกประเด็นที่เขาให้ความสนใจ
นี่แหละครับ วิธีที่จะทำให้ Message ของแบรนด์เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคอย่างแนบเนียน
- Lit Visuals
ในวันว่างๆ คุณกำลังจะกินข้าวเย็น และคิดว่าอยากจะหาอะไรดูซักหน่อย คุณเข้า youtube
มีวีดีโอให้เลือกเต็มไปหมด แล้วคุณเลือกยังไงครับ?
อาจจะเป็น Channel ที่ติดตาม, อาจจะเป็นศิลปินที่ชอบ หรืออาจจะเป็นอะไรที่ Viral
แต่ภาพ Cover Photo ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณเลือกชมวีดีโอนั้นใช่ไหมครับ?
ภาพที่สวย, Headlineที่น่าสนใจ หรือบางที อาจจะเป็น Clickbait ด้วยซ้ำ
เมื่อคุณเข้าไปดูแล้ว อะไรหละครับที่ทำให้คุณดูต่อจนจบ?
เนื้อหา Contents เรื่องราวที่น่าติดตาม นำเสนอผ่านภาพที่ดึงดูดให้เราดูต่อจนจบ
สำหรับดนตรี Hip Hop สมัยใหม่นั้น Music Video เป็นอีกหนึ่งตัวหมากสำคัญ
Music Video ทำให้เพลงเป็นที่รู้จักมากขึ้น เพิ่มยอดวิวให้กับวีดีโอ
และส่งผลให้ศิลปินเป็นที่รู้จักมากขึ้น
ไม่ใช่แค่ Hip Hop ไทยที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดนะครับ
แต่ Hip Hop ทั้งโลกกำลังก้าวกระโดดไปพร้อมๆกัน
ผมอยากจะแนะนำ วง Hip Hop วงหนึ่งจากเกาหลี ที่ผมชื่นชอบเป็นการส่วนตัว
DPR – Dream Perfect Regime
นอกจากพวกเขาจะใส่ใจในการทำดนตรีที่ลื่นไหล
พร้อมด้วยจังหวะที่อยากให้คุณเต้นตามแล้ว
งานด้าน Visual ของพวกเค้า มันช่างสุดยอดมาก
Cinematography ของพวกเขาไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
ด้วยส่วนผสมทั้งหมดที่ลงตัว ต่อให้คุณไม่ใช่คอเพลง Hip Hop
ก็ต้องมีบางส่วนที่ทำให้คุณชอบ
ผมเชื่อว่าพอได้ฟังเพลง ดู MV แล้ว อยากจะแชร์ให้เพื่อนๆ หรือคนรอบตัวได้ลองดู ลองฟัง
นี่แหละครับทำให้แบรนด์ของพวกเขาก้าวขึ้นมาเป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่ง “Visual” นี่แหละครับ คือ Key Success ที่ 3 ของเรา
งานด้าน Visual ไม่ว่าจะเป็น Design, Mood&Tone, Product design, Packaging
ล้วนสร้าง Brand Identity ให้แข็งแรงขึ้นด้วยการมองเห็น
ในหลายๆครั้ง เราจำ Logo ของแบรนด์ได้ จำโฆษณาได้ แม้กระทั่งจำสีได้
การมองเห็นมีความสำคัญ ทำให้แบรนด์เข้าไปถึงกลุ่มผู้บริโภค เพียงแค่มองผ่าน
สร้างภาพจำให้กับแบรนด์, ทำให้ลูกค้าอยากทดลอง Product, สร้างการพูดถึงให้กับ Campaign หรือแบรนด์แบบ Word of mouth (ปากต่อปาก)
เพราะฉะนั้นในการทำงานด้าน Visual จะต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ
มีการเลือกใช้สีที่ชัดเจน ผู้บริโภคควรได้เห็นในสิ่งที่แบรนด์เลือกมาอย่างดีแล้ว
การลงทุนกับการผลิตชิ้นงานภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว
ทำให้คุณภาพของแบรนด์ ออกมาผ่านผลงานได้เช่นกัน
และที่สำคัญการทำงานด้าน Visual จะต้องทำอย่างต่อเนื่อง
เพื่อทำให้แบรนด์ของคุณ “มีชีวิต” ทำให้แบรนด์ของคุณจับต้องได้
และเข้าไปอยู่ในหัวใจของกลุ่มผู้บริโภคของคุณ
- We gang gang!
Hip Hop เป็นวงการที่เปิดโอกาสให้ทุกคนกลายเป็นศิลปินได้
เนื่องด้วยองค์ประกอบที่หลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็น
Rapper คนที่ rap นำในเพลง, Vocal นักร้องที่เป็นเสียงร้องในเพลง,
Beat Producer คนที่ผลิตเพลง, Hypeman คนที่คอยเสริมเสียงในเพลง, เพื่อนๆ ที่คอยมานั่งเท่ๆใน MV รวมไปถึงแฟนคลับที่คอยตามศิลปินไปในงานแสดงสดต่างๆ
ผู้คนเหล่านี้มารวมตัวกันเป็น “Gang”

Credit: 88rising
แก๊งในที่นี้ไม่ใช่กลุ่มที่รวมตัวกันเพื่อมั่วสุม หรือทำตัวเป็นนักเลง
แต่คือกลุ่มเพื่อน พี่น้อง ที่มารวมตัวกันด้วยความรักในวัฒนธรรม Hip Hop
สร้างผลงาน กิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้ Hip Hop เป็นที่รู้จักมากขึ้น
หรือที่พวกเราชาว Hip Hop เรียกว่า “รันวงการ”
Key Success ที่ 4 ที่อาจจะสำคัญที่สุด
ทุกคนน่าจะเคยเห็น รายการ Rap Battle ผ่านหูผ่านตามากันบ้างในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
อย่างรายการ “Rap is now” “The Rapper” และ “Show me the money”

Credit: https://web.facebook.com/TheRapperTH
นี่เป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีรายการแบบนี้ในทีวี
ทำให้เห็นว่า Rap และ Hip Hop เป็นกลายเป็นหนึ่งในกระแสหลักของคนไทยไปแล้ว
รายการเหล่านี้เป็นมากกว่าแค่รายการ แต่เป็น Hip Hop Community
ที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่ชื่นชอบและรักในดนตรี ได้มีโอกาสมาแสดงฝีมือความสามารถ
รวมไปถึงไปชมการแข่งขันที่เข้มข้น และเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับศิลปิน เพลง
และเป็นพื้นที่ที่ทำให้เจอคนที่มีความชอบเหมือนๆกัน
ไม่มีแบรนด์หรือสินค้าไหนในยุคนี้ ที่สามารถเป็นที่รู้จัก โด่งดังขึ้นมาได้ด้วยตัวเองล้วนๆ
ทุกคนล้วนต้องการความช่วยเหลือ เพื่อสร้างการรับรู้
ไม่ว่าจะเป็นจาก Influencer, KOLs หรือจากผู้บริโภคโดยตรง
การสร้าง Community คือการรวบรวมคนที่มีความรักความสนใจในแบรนด์
สร้างพื้นที่ให้พวกเขาได้มีบทสนทนากับแบรนด์ และสนทนากันเอง
ทำให้เกิด Brand Loyalty สิ่งล้ำค่าที่ทุกแบรนด์ตามหา
ทำให้กลุ่มผู้บริโภคติดตามข่าวสารต่างๆของ Brand เกิดเป็น Emotional Connection
การสร้าง Community ของแบรนด์สามารถเริ่มทำได้ไม่ยาก
ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Facebook group, Line Group
หรือการจัด Event ให้แฟนคลับของ Brand ได้มาเจอกัน
โดยที่แบรนด์ควรจะมอบสิ่งพิเศษให้พวกเขา เช่นการได้ทดลอง Product ก่อนตลาด, ส่วนลดพิเศษ, Membership หรือแม้กระทั่งถามความคิดเห็นของพวกเขาเกี่ยวกับสินค้าและบริการ
และเมื่อนำข้อมูลเหล่านั้นไปปรับใช้จริง จะทำให้พวกเขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์
และรักแบรนด์ของเรามากขึ้นไปอีก
TOO LONG, DIDN’T READ
4 Key Successที่ผมได้เรียนรู้จาก Hip Hop
- “Brand Identity” ที่ชัดเจน มาจากการสร้าง “Customer Experiences”
- “Personalised Contents” พูดกับลูกค้าด้วย “ภาษาที่เขาเข้าใจ ในเรื่องที่เขาสนใจ”
- “Visual” ทำให้แบรนด์ของคุณ “มีชีวิต”
- สร้าง Emotional Connection โดย “Community” ที่รวมลูกค้าไว้ในที่เดียวกัน
ถ้าคุณเป็นเจ้าของแบรนด์ หรือทำงานเกี่ยวข้องกับการดูแลและสร้างแบรนด์
ผมหวังว่าทั้ง 4 ข้อที่ผมเล่าให้ฟัง สามารถไปสร้างไอเดีย ให้คุณลองนำไปปรับใช้ได้นะครับ
หรือถ้าหากคุณไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานอะไรแนวนี้
ผมก็หวังว่าคุณจะสนุกกับการอ่าน และได้แรงบันดาลใจ
รอบๆตัวเรามีไอเดียที่รอให้เราไปค้นพบอยู่มากมาย
ไม่ว่าจะเป็นดนตรีที่ฟัง หนังสือที่อ่าน เพื่อนบ้านของคุณ หรือท้องฟ้ายามเย็น
ลองหามุมมองใหม่ๆ มองให้กว้างขึ้น ลึกขึ้น แล้วคุณเองก็จะได้เรียนรู้อะไรจากมันแน่นอน
วันนี้เท่านี้พอแหละครับ
โอกาสหน้า จะหา เรื่องราวน่าสนใจ อะไรสนุกๆ มาเล่าให้ทุกคนฟังอีกนะครับ
PEACE!
Win