Hybrid Shopping อนาคตของการซื้อของจาก Supermarket
อย่างที่นักการตลาดหลายๆ คนทราบว่าช่วงการระบาดของ Covid-19 ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างมาก โดยเฉพาะพฤติกรรมการซื้อของกินของใช้ใน supermarket ที่หลายคนหันไปสั่งของทางออนไลน์มากขึ้นเพราะไม่ต้องการเสียเวลาและเสี่ยงในการไปเจอผู้คน แต่กลับพบว่าของที่ต้องการหมด หรือยังไม่ถูกส่งมาที่หน้าร้าน รวมถึงการที่ผู้บริโภคไม่อยากต่อแถวในคิวแคชเชียร์นานๆ
จึงเป็นที่มาของ Hybrid Shopping ที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคและสื่งที่ผู้ขายสามารถมอบทางเลือกเพิ่มเติมให้แก่ลูกค้า
ทาง Facebook ได้สรุป 3 เรื่องที่เกี่ยวข้องกับ Hybrid Shopping ดังนี้
ให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่ามีสินค้าหรือไม่ก่อนที่จะเดินทางไปหน้าร้าน
แม้เหตุการณ์สินค้าหมดจากชั้นวาง จะไม่ค่อยได้พบเห็นบ่อยแล้วเมื่อพ้นช่วงวิกฤติ Covid-19 ในช่วงแรกๆ แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้จากปัจจัยอื่นๆ อ้างข้อมูล research พบว่าปัญหา out-of-stock เป็น top 5 pain point ของผู้บริโภคเมื่อมีประสบการณ์ในการซื้อของที่หน้าร้าน
เพื่อยกระดับประสบการณ์ที่ดีให้ผู้บริโภค supermarket เจ้าหนึ่งในสหราชอาณาจักรสร้าง app ขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้า app และเช็คก่อนได้ว่าสินค้าที่พวกเขาจะไปซื้อมีขายหรือไม่ก่อนที่ลูกค้าจะเดินทางไปซื้อที่ร้าน
ดังนั้นหากทางผู้ขายมีทางเลือกให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบได้แบบ real-time ว่าสินค้าที่พวกเขาต้องการซื้อมีของหรือไม่ก่อนที่เขาจะเดินทางไปซื้อ ย่อมทำให้ผู้บริโภคได้ประสบการณ์ที่ดีลดความหงุดหงิดจากการไปถึงที่แล้วไม่ได้ของที่ต้องการ
สแกนเพื่อให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจซื้อ
ทุกวันนี้การใช้ QR Code แทบจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการสแกนจ่ายเงิน หรือสแกนเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม ดังนั้นแบรนด์และผู้ขายสามารถนำ QR code และ technology ในการสแกนต่างๆ มาใช้เพื่อมอบข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้กับผู้บริโภคได้ ข้อมูลอย่างเช่น carbon footprint หรือข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มาของวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง eco-friendly หรือเรื่อง fair trade และด้านมนุษยธรรมต่างๆ ผู้บริโภคก็สามารถสแกนแล้วอ่านเพิ่มเติมได้ว่าอยากจะสนับสนุนสินค้าเหล่านั้นหรือไม่
Supermarket chain เจ้าหนึ่งในประเทศจีน สร้าง app ขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้าสามารถสแกน barcode เพื่อรับเนื้อหาแบบ personalized แนะนำสินค้าและจับคู่สินค้าตามประวัติการซื้อของและรสนิยมของลูกค้าคนนั้นๆ ได้
Technology เหล่านี้ไม่ใช่แค่มอบความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคแต่ยังสามารถ “spark joy” ได้อีกด้วย จากผลวิจัยระบุว่า การมีประสบการณ์เดินดูเดินเลือกซื้อของที่ดี เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญในการซื้อของที่ไม่ได้วางแผนมาก่อน
ความสำคัญสูงสุดในการลดระยะเวลาการรอคิวจ่ายเงินของผู้บริโภค
32% ระบุว่าการรอคิวจ่ายเงินนานๆ คือ pain point อันดับต้นๆ ของประสบการณ์การไปซื้อของใน supermarket จึงเป็นที่มาว่า supermarket หลายๆ ที่นำ technology เข้ามาช่วยให้การจ่ายเงินทำได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น kios self-checkout ใน supermarket หลายแห่งในหลายๆ ประเทศ ร้านต้นแบบของ Amazon Go ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ทำให้ประสบการณ์การซื้อของและการจ่ายเงินเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นยังมี supermarket หลายๆ เจ้าที่ใช้วิธีสั่งและจ่ายเงินทางออนไลน์ก่อนที่ผู้บริโภคจะขับรถเข้ามารับของที่จุด pick-up โดยไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวจ่ายเงินเลย และแน่นอน การเกิดขึ้นของบริการส่งตรงถึงบ้านต่างๆ ที่สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภค โดยเพียงรอสบายๆ อยู่ที่บ้านให้ของมาส่งถึงที่
และนี่ก็เป็นอนาคตของการซื้อของจาก Supermarket ที่จะกลายเป็น Hybrid Shopping ขึ้นเรื่อยๆ แบรนด์และ retailer สามารถนำ technology ต่างๆ มาปรับใช้เพื่อลด pain point และมองประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นในการจับจ่ายซื้อของที่หน้าร้านของผู้บริโภค
อ้างอิงและอ่านเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/business/news/insights/new-trend-hybrid-grocery-shopping-takes-shape
Facebook IQ Industry Perspectives Report
