สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Broad และ Specific Audience Targeting ใน Facebook Ads
เมื่อไหร่เราควรเลือกกลุ่มเป้าหมายแบบเจาะจงในวงแคบ (specific) และเมื่อไหร่ควรจะเลือกแบบกว้าง (broad)? สำหรับ Awareness objective หรือสร้างการรับรู้เกี่ยวกับ brand สินค้าหรือบริการของเรา
ตามทฤษฎีเดิม การทำ Facebook advertising เราต้องการให้เข้าถึงกลุ่มเฉพาะเจาะจงให้ได้มากที่สุดเพื่อมั่นใจว่าเราจะเข้าถึงกลุ่มที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ อย่างไรก็ดี เนื่องจากการแข่งขันที่สูงขึ้น จำนวนผู้ลงโฆษณามากขึ้น แต่จำนวนผู้ใช้งาน Facebook ไม่ได้เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดเหมือนปีก่อนๆ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของ Facebook algorithm ทำให้การตั้ง targeting แบบ specific มีค่าโฆษณาแพงขึ้นมากเมื่อเทียบกับผลลัพท์ที่จะได้ เพราะเมื่อเรายิ่งลงลึกเจาะกลุ่มที่แคบมากเท่าไหร่ เรากำลังบอกระบบว่าเราต้องการให้โฆษณาเข้าถึงกลุ่มคนกลุ่มนี้กลุ่มเดียวเท่านั้นโดยไม่สนปัจจัยอื่นๆ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นคือเราต้องแข่งขันการเข้าถึงกลุ่มคนกลุ่มเล็ก ๆ ดังกล่าวกับผู้ลงโฆษณาที่เจาะกลุ่มเดียวกันอีกหลายๆราย ที่สำคัญที่สุดคือเมื่อกลุ่มเป้าหมายมีจำนวนน้อยมากๆ ทำให้ไม่เหลือที่ให้ระบบของ Facebook ads เรียนรู้เพื่อหาคนที่น่าจะสนใจกับโฆษณาของเราเพิ่ม
กลับกัน เมื่อเราขยายกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้นมาหน่อย ด้วยจำนวนคนที่มากขึ้นทำให้ระบบ Facebook มีโอกาสที่จะเรียนรู้ว่าคนที่มีความสนใจแบบไหน มีพฤติกรรมอย่างไร ที่น่าจะเป็นกลุ่มคนที่จะก่อให้เกิดการกระทำที่มีความหมายกับโฆษณาของเรา แล้วจะทำให้ระบบใช้งบประมาณที่เราตั้งไว้ได้คุ้มค่ากว่าการพยายามเข้าถึงกลุ่มที่แคบมากๆ
สำหรับ Awareness objective การหา audience targeting ที่เหมาะสมกับธุรกิจของเราจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก อย่างไรก็ดี เราควรทดสอบการตั้ง broad และ specific targeting ด้วยตัวเอง เพื่อหาจุดเหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของเราต่อไป
สำหรับ objective อื่น ๆ อย่าง consideration และ conversion เราต้องวางแผนตั้ง targeting อย่างละเอียดต่อไป เช่น การทำ retargeting กับคนที่เคยเห็น ads ของเรามาบ้างแล้ว (เคยมี awareness) หรือการทำ lookalike จาก custom audience รายชื่อคนที่เคยซื้อสินค้าของเรา และรายละเอียดอื่นๆอีกมากมายที่อาจจะนำมากล่าวถึงในบทความถัดๆไปในอนาคต
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก: https://blog.thatagency.com/5-best-practices-for-facebook-ads-from-facebook
Photo by Jack Finnigan on Unsplash